zombie apocalypse game เกม เล่น บา ส
大小:12M
时间:2023-10-02 16:22:12
ฟุตบอลโลกหญิง 2019
โอมิครอน กลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว HK.3 เจอในไทยแล้ว แพร่เร็วกว่าเดิม ถึง 95% โอมิครอนกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้วHK.3เจอในไทยแล้ว3รายแพร่ระบาดเร็วกว่าXBB.1.16ถึง95%ศูนย์จีโนมทางการแพทย์รพ.รามาธิบดีโพสต์เพจเฟซบุ๊ก CenterforMedicalGenomics ระบุว่า ยุทธวิธีล่าสุดของโควิด-19เพื่อความอยู่รอดคือการ “กลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(L455F+F456L)” โดยมีไวรัสกลายพันธุ์ลักษณะนี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี2566การ“กลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(L455F+F456L)”ถือเป็นความพยายามล่าสุดของไวรัสโควิด-19ในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นพร้อมไปกับเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะกับผิวเซลล์มนุษย์ทำให้ไวรัสแทรกเข้าไปติดเชื้อในเซลล์ได้ดีกว่าโอไมครอนทุกสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในปัจจุบันกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้วยุทธวิธีล่าสุดของโควิด-19จากการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของโควิด-19ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมาตลอด3ปีย่างเข้าปีที่4พบการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(L455F+F456L)เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี2566ขณะนี้มีจำนวนถึง2,261ราย โดยพบในไทย3รายจากกทม.2รายและจากเชียงใหม่1ราย(HK.3) ซึ่งต้องสืบสวนโรคต่อไปว่าทั้งสามรายมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องกันอาจประเมินเบื้องต้นว่าได้มีการแพร่ระบาดของโอมิครอนที่มีการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(L455F+F456L)ในไทยมากกว่าที่มีรายงานในฐานข้อมูลโควิดโลก“จีเสส”เพราะการตรวจโควิด-19ด้วยเทคนิคPCRตามด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมในระยะหลังทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกลดลงอย่างมาก(เปลี่ยนไปตรวจATKซึ่งไม่สามารถระบุสายพันธุ์ของโควิด-19ได้)จำนวนที่เราพบอาจเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรที่โผล่เพียงส่วนยอดแหลมขึ้นมาเหนือผิวน้ำเท่านั้น(TheTipOfTheIceberg)ตั้งแต่ปี2566เป็นต้นมานักวิทยาศาสตร์ได้เรียนรู้ว่าโควิด-19มีกลยุทธ์ใหม่(Newtrick)ในการกลายพันธุ์เพื่อ“สลายตำแหน่ง”ที่แอนติบอดี(ที่เกิดขึ้นในร่างกายจากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อตามธรรมชาติ)เข้าจับกับส่วนหนามของไวรัสเพื่อการทำลายอนุภาคไวรัสยิ่งไปกว่านั้นการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้ยังช่วยให้ส่วนหนามสามารถเข้าจับกับผิวเซลล์มนุษย์ได้ดียิ่งขึ้นกล่าวคือมีการกลายพันธุ์สองตำแหน่งติดกัน(double/combomutation)คือL455FและF456Lแบบพลิกขั้ว(Flip) โดยการเปลี่ยนแปลงในระดับกรดอะมิโน“ฟีนิลอะลานีน(F)”และ“ลิวซีน(L)”โดยตำแหน่งที่กลายพันธุ์แรก(455)จะพลิกขั้วจากLเป็นFและตำแหน่งถัดมา(456)พลิกขั้วจากFเป็นLเมื่อรวมการเปลี่ยนแปลงสลับขั้วของสองกรดอะมิโนเข้าด้วยกันจะทำให้ส่วนหนามของไวรัสสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้นโดยการสลายตำแหน่งที่แอนติบอดีจะเข้าจับกับส่วนหนามของไวรัสเพื่อทำลายอนุภาคไวรัสทำให้ส่วนหนามของไวรัสสามารถจับกับผิวเซลล์มนุษย์(ACE2)ได้แน่นขึ้นช่วยให้ไวรัสแทรกเข้าสู่เซลล์ได้ดียิ่งขึ้นโอไมครอนกลายพันธุ์คู่–พลิกขั้วHK.3เจอในไทยแล้ว 3 รายปรากฏการณ์ดังกล่าวจึงถูกเรียกว่าการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(Flipcombomutation)ทำให้เกิดXBBสองสายพันธุ์ใหม่ขึ้นที่โดยศูนย์จีโนมทางการแพทย์รพ.รามาธิบดีกำลังเฝ้าระวังคือGK(XBB.1.5.70)มีต้นตระกูลเป็นXBB.1.15เกิดกลายพันธุ์บนส่วนหนามสองตำแหน่งติดกันคือL455FและF456LและHK.3(XBB.1.9.2.5.1.1.3)มีต้นตระกูลมาจากEG.5.1มีการกลายพันธุ์บนส่วนหนามสองตำแหน่งติดกันคือL455FและF456Lเช่นกันHK.3พบแล้วใน10ประเทศทั่วโลกจำนวน118ราย พบในประเทศไทย3รายHK.3ที่พบในไทยมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด(relativegrowthadvantage) เหนือกว่าสายพันธุ์หลักXBB.1.16ที่ระบาดในไทยถึง95%โดยศูนย์จีโนมฯกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดการพบHK.3ในประเทศต่างๆ จากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกในการเฝ้าติดตามสายพันธุ์ของโควิด-19ที่เปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมของโควิด-19ทั้งจีโนม(GlobalGenomicsurveillancetracksCOVID-19variants)และแชร์ไว้บนฐานข้อมูลโควิดโลก“จีเสส(GISAID)”พบโอไมครอนHK.3ในประเทศต่างๆดังนี้จีน88รายคิดเป็น0.282%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศเกาหลีใต้13รายคิดเป็น0.036%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศสหรัฐ5รายคิดเป็น0.004%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศญี่ปุ่น3รายคิดเป็น0.011%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย3รายคิดเป็น0.078%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศสิงคโปร์2รายคิดเป็น0.026%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศสเปน2รายคิดเป็น0.012%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศออสเตรเลีย1รายคิดเป็น0.004%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศแคนาดา1รายคิดเป็น0.003%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศเยอรมนี1รายคิดเป็น0.005%ของทุกสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศส่วนโอมิครอนสายพันธุ์GK(XBB.1.5.70)พบทั่วโลก336ราย พบมากในบราซิลสหรัฐสเปนฝรั่งเศสแคนาดาโปรตุเกสอังกฤษไอซ์แลนด์ฯลฯตามลำดับยังไม่พบในประเทศไทยนักวิจัยชาวจีนดร.หยุนหลงริชาร์ดเฉาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งได้ทำการตรวจสอบในหลอดทดลองยืนยันว่าโอมิครอนXBBที่มีการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(XBB*+L455F+F456L)จะหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุดในปัจจุบันโอมิครอนXBBที่มีการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว(XBB*+L455F+F456L)จะจับกับผิวเซลล์มนุษย์ได้ดีที่สุดในปัจจุบันXBBที่มีการกลายพันธุ์ที่F456LหรือL455Fเพียงตำแหน่งเดียวจะจับกับผิวเซลล์ได้ไม่ดี